Interview
In Dogs and Pets Magazine (August 2000)Con't
บรีดเดอร์หลายรายที่เขามีชื่อเสียง พวกนี้เขาไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ ตามที่ผมเห็น เขาจะมีสุนัขที่อยู่สังกัดเขาไม่เยอะ ประมาณ 8-10 ตัวแล้วก็จะเน้นการพัฒนาลูกหลานให้เติบโตขึ้นมา เข้าประกวดในงานต่างๆ สามารถเป็นพ่อพันธุ์ได้ในอนาคต เป็นแม่พันธุ์ในอนาคตได้ เยอรมันเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายๆ ประเทศ เขาไม่จำเป็นต้องสั่งสุนัขที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เลย เพราะอะไร เพราะเขามีความสามารถและมีประสบการณ์ความชำนาญที่พัฒนาแล้วให้ลูกหลานของเขาที่เติบโตขึ้นมาดีเท่าเดิมหรือต้องดีกว่า ในขณะที่ประเทศอื่น อย่าว่าแต่เมืองไทยหรือเอเซีย อเมริกาเองก็ยังต้องสั่งเข้าจากเยอรมันเลย เพราะว่าประสบการณ์ในการทำตรงนี้ทำไม่ได้ถึงขั้น นี่คือจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าเราอยากจะทำ เราอยากจะเป็นลักษณะแบบนั้น คือเราไม่ต้องการเน้นเรื่องการขายลูกสุนัขเพื่อได้รายได้จากตรงนั้น ไอ้ตรงนั้นมันเป็นส่วนเสริมมากกว่าที่ได้กลับมา สิ่งที่เราต้องการ เราอยากจะเห็นสุนัขเมืองไทยเติบโตขึ้นมา มีความสวยสดงดงามเหมือนกับสุนัขนำเข้า อีกหน่อยอาจจะต้องเร็วมาก 10 ปีข้างหน้า ถ้าเราทำได้ ถึงวันนั้นจริงๆ เราสามารถส่งออกไปด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องสั่งเข้ามาเลย แล้วก็พูดถึงคุณภาพคนไทยหรืออะไร ก็ จะเป็นที่ยอมรับของเมืองนอก ไม่อย่างนั้นจะสังเกตุเห็นตามงานประกวดต้องเป็นชื่อแปลกๆ ทั้งนั้นเลย ชื่อไทยๆ จะไม่ค่อยมีเป็นสุนัขนำเข้าทั้งนั้น เลยกลายเป็นว่าใครมีเงินก็ ไปซื้อเข้ามา เมื่อสุนัขมีตำแหน่งอยู่แล้วเข้ามายังไงก็ต้องชนะเขา งานประกวดผมก็เข้าไปเหมือนกัน แต่จุดประสงค์ที่ผมเข้าร่วมประกวดจะต่างกับคนอื่น คนอื่นอาจจะต้องการรางวัลใหญ่ แต่รางวัลที่ผมต้องการคือรางวัลที่ได้จากสุนัขของผมเอง คือเราสามารถพัฒนาสายพันธุ์ของเราเอง โอเคในช่วงต้น เราอาจไม่มีประสบการณ์เหมือนอย่างเมืองนอก เราจำเป็นต้องสั่งพ่อพันธุ์เข้ามาเพื่อต่อสาย สุนัขพวกนี้เมื่อเข้าไปแข่งก็ได้รางวัลเป็นธรรมดา แต่ความภาคภูมิใจที่ได้ผมคิดว่าสู้สุนัขที่เราพัฒนาขึ้นมา แล้วไปแข่งได้รางวัล อาจจะเล็กกว่าเขาแต่เราก็ภูมิใจแล้ว มือเราก็ถึงระดับหนึ่ง แต่ถ้าผมไปซื้อเขามาแล้วไปแข่งได้รางวัล แม่จะได้รางวัลมาก ก็ไม่ภูมิใจเท่า เพราะไม่ใช่ฝีมือของเรา เป็นฝีมือเขา เขาทำมาให้เรียบร้อยแล้ว อะไรอย่างนี้ อันนี้คือความตั้งใจของผม" |
||
|
เราได้ถามว่า ในการบรีดสุนัขให้ดีขึ้นอะไรเป็นหัวใจที่ทำให้สุนัขดีขึ้น เป็นต้นว่าเรื่องพันธุกรรม ที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม ตลอดจนอาหารการกินและการออกกำลังกายก็ได้รับคำตอบว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถามง่ายแต่ตอบยาก เพราะว่าอย่างที่ผมบอกเรื่องของสิ่งมีชีวิต มันไม่มีอะไรตายตัวเหมือนอย่างเราเรียนคณิตศาสตร์ 2 บวก 2 เป็น 4 4 บวก 4 เป็น 8 ถ้าทุกอย่างตายตัวแบบนั้นมันก็ง่าย คือถ้าบอกว่าคุณต้องทำอันนี้หนึ่ง ทำอันนี้สอง ทำอันนี้สาม ทำอันนี้สี่แล้วคุณจะได้ผลเป็นอย่างนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ อันนี้คือความยากของการเพาะพันธุ์สุนัข แม้กระทั่งต้นตำหรับเอง เขาบรีดออกมาหนึ่งครอก ก็ใช่ว่าเขาทำได้ดีหมดมันดีต้องอย่างน้อยสัก 20 เปอร์เซ็นต์ดีบ้าง ที่เหลือมันก็ต้องคัดทิ้ง แต่ส่วนใหญ่ที่เราเห็นเป็นตัวที่เขาคัดมาแล้วเราไปซื้อเขามา แต่ตัวที่ไม่ดีเราไม่มีโอกาสได้เห็น เขาอาจจะส่งต่อไปที่อื่นๆ ทีนี้กลับมาในเรื่องที่ว่าแนวทางในการพัฒนาสาย ความเชื่อของผมอย่างหนึ่งบวกกับความรู้ที่เราได้รับจากหนังสือที่เราศึกษา กับพรรคพวกที่เรารู้จักได้คุยกัน แล้วก็คอกต่างประเทศที่ผมเคยได้ไปคุยที่เขามีประสบการณ์มากกว่าเรา การที่จะทำให้สุนัขออกมากสวย ถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์มันมีปัจจัยหลายยอย่าง อันดับแรกที่ผมมองคือสายพันธุ์นั่นเอง ตัวยีนส์ของเขา ยกตัวอย่างง่ายๆ ผมเอาลูกคนไทยให้ไปกินสเต็กทุกวัน โตยังไงก็ไม่เหมือนผรั่ง เพราะมันไม่ได้อยู่ที่อาหาร ไม่ได้อยู่ที่อากาศ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญผมว่ามากกว่าเจ็ดแปดสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ที่สายพันธุ์ แล้วก็เรื่องการผสมสายพันธุ์นี่ก็เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก ผมก็ยอมรับตรงๆ ว่าประสบการณ์ตรงนี้เรายังสู่เมืองนอกไม่ได้ แต่ว่าหลังๆ ทางเยอรมันเขาก็เริ่มใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น เช่นมีการเก็บข้อมูลสุนัข เช่นพ่อพันธุ์มีลักษณะหัวแบบนี้ อกแบบนี้ผสมกับแม่แบบนี้ลูกที่ได้ออกมามีค่าเท่าไร ความเป็นไปได้หรือสถิติที่เกิดขึ้น ก็ใช้ตรงนั้นเป็นฐานอย่างหนึ่ง |
|
นอกจากนั้นก็เป็นความรู้สึกและประสบการณ์ของแต่ละเจ้าซึ่งไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเรียนรู้ การได้ลองทำประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นหลัก นอกเหนือไปจากเรื่องของสายพันธุ์ เรื่องของยีนส์ที่เราต้องคัดมาแล้ว คัดในที่นี้หมายความว่ายีนส์ต้องจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีความถูกต้องก่อน ต้องมีความถูกต้องตามมาตรฐานพันธุ์แล้วต้องดูให้ออกด้วย ถ้าเราไปเอาสุนัขที่ไม่มีความถูกต้องมาโอกาสก็น้อย แต่ถ้าเกิดพ่อแม่ดี ถูกต้อง ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษดี โอกาสที่จะได้ลูกสุนัขที่ดีมันก็มีมากกว่า ถัดมาก็คือสภาพความเป็นอยู่การเลี้ยงดูเขา เนื่องจากเป็นโชคของผมที่ได้ไปสัมผัสกับคอกเมืองนอก ประกอบกับเราเองก็ชอบศึกษาชอบค้นคว้า เราก็เอารูปแบบของเขา นำมาดัดแปลงให้เข้ากับสภาพอกกาศในเมืองไทย หลักง่ายๆ เลยคือสุนัขต้องอยู่แล้วสบายไม่เหนอะหนะไม่เหนียวตัว ต้องแห้ง อารมณ์จะได้ไม่หงุดหงิด สองกลิ่นต้องมีน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย สามเรื่องการ ดูแลของเสียต้องมีระบบที่ชัดเจนต้องสามารถระบายของเสียได้รวดเร็วแล้วก็ไม่ทิ้งตกค้างอยู่ในคอก ก็จะทำให้คอกสะอาด .. |
|
Home | Male | Female | Puppy | Import Puppy | Kennel | Gallery | Contest | Contact Us